is_login
วิธีการใช้ฟังก์ชัน is_login
is_loginฟังก์ชัน is_login ใช้สำหรับตรวจสอบสถานะการล็อกอินของผู้ใช้ โดยตรวจสอบจากโทเค็นการเข้าถึง (access_token) ที่ถูกส่งเข้ามา และดึงข้อมูลผู้ใช้จากฐานข้อมูลหากโทเค็นยังคงใช้ได้และมีสถานะการล็อกอินที่ถูกต้อง
พารามิเตอร์
$usertoken(optional, default =null) - โทเค็นการเข้าถึง (access_token) ของผู้ใช้ หากระบุ ฟังก์ชันจะใช้โทเค็นนี้ในการตรวจสอบ
ขั้นตอนการทำงาน
ตรวจสอบว่า
$usertokenถูกส่งเข้ามาหรือไม่ดึงข้อมูลโทเค็นจากฐานข้อมูล (
admin_access_tokens) โดยตรวจสอบว่ามีโทเค็นที่ตรงกันและมีสถานะล็อกอิน (access_islogin) เป็น1หากพบโทเค็นที่ถูกต้อง ฟังก์ชันจะดึงข้อมูลผู้ใช้จากตาราง
admin_memberโดยใช้ค่าaccess_idที่ตรงกับuser_tokentและส่งข้อมูลผู้ใช้กลับมาหากไม่พบโทเค็นที่ตรงกัน หรือสถานะการล็อกอินไม่ถูกต้อง ฟังก์ชันจะส่งกลับค่า
null
ตัวอย่างการใช้งาน
ตรวจสอบการล็อกอินด้วยโทเค็นที่ระบุ
$usertoken = "12345-67890-abcdef"; $userInfo = $_PNA->is_login($usertoken); if (!is_null($userInfo)) { echo "ผู้ใช้ล็อกอินอยู่: " . $userInfo['username']; } else { echo "ไม่พบข้อมูลการล็อกอิน"; }ผลลัพธ์: ฟังก์ชันจะตรวจสอบโทเค็นที่ระบุและดึงข้อมูลผู้ใช้ หากโทเค็นถูกต้องและสถานะการล็อกอินยังคงใช้งานอยู่ จะส่งกลับข้อมูลผู้ใช้
กรณีที่โทเค็นไม่ถูกต้องหรือไม่พบข้อมูล
$usertoken = "invalid-token"; $userInfo = $_PNA->is_login($usertoken); if (is_null($userInfo)) { echo "ไม่พบข้อมูลการล็อกอินหรือโทเค็นไม่ถูกต้อง"; }ผลลัพธ์: ฟังก์ชันจะส่งกลับค่า
nullหากไม่พบโทเค็นที่ตรงกันหรือสถานะล็อกอินไม่ถูกต้อง
ผลลัพธ์ที่ได้:
หากพบโทเค็นที่ถูกต้องและสถานะการล็อกอินเป็น
1จะคืนค่าข้อมูลผู้ใช้ในรูปแบบอาร์เรย์จากตารางadmin_memberหากไม่พบโทเค็นหรือสถานะไม่ถูกต้อง จะคืนค่า
null
Last updated