is_login

วิธีการใช้ฟังก์ชัน is_login

ฟังก์ชัน is_login ใช้สำหรับตรวจสอบสถานะการล็อกอินของผู้ใช้ โดยตรวจสอบจากโทเค็นการเข้าถึง (access_token) ที่ถูกส่งเข้ามา และดึงข้อมูลผู้ใช้จากฐานข้อมูลหากโทเค็นยังคงใช้ได้และมีสถานะการล็อกอินที่ถูกต้อง

  • พารามิเตอร์

    • $usertoken (optional, default = null) - โทเค็นการเข้าถึง (access_token) ของผู้ใช้ หากระบุ ฟังก์ชันจะใช้โทเค็นนี้ในการตรวจสอบ

ขั้นตอนการทำงาน

  1. ตรวจสอบว่า $usertoken ถูกส่งเข้ามาหรือไม่

  2. ดึงข้อมูลโทเค็นจากฐานข้อมูล (admin_access_tokens) โดยตรวจสอบว่ามีโทเค็นที่ตรงกันและมีสถานะล็อกอิน (access_islogin) เป็น 1

  3. หากพบโทเค็นที่ถูกต้อง ฟังก์ชันจะดึงข้อมูลผู้ใช้จากตาราง admin_member โดยใช้ค่า access_id ที่ตรงกับ user_tokent และส่งข้อมูลผู้ใช้กลับมา

  4. หากไม่พบโทเค็นที่ตรงกัน หรือสถานะการล็อกอินไม่ถูกต้อง ฟังก์ชันจะส่งกลับค่า null

ตัวอย่างการใช้งาน

  1. ตรวจสอบการล็อกอินด้วยโทเค็นที่ระบุ

    $usertoken = "12345-67890-abcdef";
    $userInfo = $_PNA->is_login($usertoken);
    
    if (!is_null($userInfo)) {
        echo "ผู้ใช้ล็อกอินอยู่: " . $userInfo['username'];
    } else {
        echo "ไม่พบข้อมูลการล็อกอิน";
    }

    ผลลัพธ์: ฟังก์ชันจะตรวจสอบโทเค็นที่ระบุและดึงข้อมูลผู้ใช้ หากโทเค็นถูกต้องและสถานะการล็อกอินยังคงใช้งานอยู่ จะส่งกลับข้อมูลผู้ใช้

  2. กรณีที่โทเค็นไม่ถูกต้องหรือไม่พบข้อมูล

    $usertoken = "invalid-token";
    $userInfo = $_PNA->is_login($usertoken);
    
    if (is_null($userInfo)) {
        echo "ไม่พบข้อมูลการล็อกอินหรือโทเค็นไม่ถูกต้อง";
    }

    ผลลัพธ์: ฟังก์ชันจะส่งกลับค่า null หากไม่พบโทเค็นที่ตรงกันหรือสถานะล็อกอินไม่ถูกต้อง

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • หากพบโทเค็นที่ถูกต้องและสถานะการล็อกอินเป็น 1 จะคืนค่าข้อมูลผู้ใช้ในรูปแบบอาร์เรย์จากตาราง admin_member

  • หากไม่พบโทเค็นหรือสถานะไม่ถูกต้อง จะคืนค่า null

Last updated