is_log

วิธีการใช้ฟังก์ชัน is_log

ฟังก์ชัน is_log ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลการทำงานของผู้ใช้ลงในฐานข้อมูล (admin_log) เพื่อเก็บข้อมูลกิจกรรม เช่น การเข้าใช้งาน การกระทำต่างๆ และสถานะการทำงาน โดยฟังก์ชันนี้จะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้, IP, และ User Agent ของเบราว์เซอร์

• พารามิเตอร์

  • $userid (required) - ID ของผู้ใช้ที่ทำกิจกรรม

  • $log_data (optional, default = null) - ข้อมูลหรือรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำ (ในรูปแบบ string)

  • $log_mode (optional, default = "other") - ประเภทของกิจกรรม เช่น "login", "update", "delete"

  • $log_status (optional, default = "success") - สถานะของกิจกรรม เช่น "success", "failure"

ตัวอย่างการใช้งาน

1. บันทึกการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้

   $userid = 1;
   $log_data = "ผู้ใช้เข้าสู่ระบบสำเร็จ";
   $log_mode = "login";
   $log_status = "success";
   
   $result = $_PNA->is_log($userid, $log_data, $log_mode, $log_status);
   
   if ($result) {
       echo "บันทึกกิจกรรมสำเร็จ";
   } else {
       echo "เกิดข้อผิดพลาดในการบันทึกกิจกรรม";
   }

   ผลลัพธ์: บันทึกการกระทำในฐานข้อมูล โดยระบุว่าผู้ใช้เข้าสู่ระบบสำเร็จด้วย IP และ User Agent ของผู้ใช้

2. บันทึกการอัปเดตข้อมูลผู้ใช้

   $userid = 2;
   $log_data = "ผู้ใช้อัปเดตข้อมูลส่วนตัว";
   $log_mode = "update";
   $log_status = "success";
   
   $result = $_PNA->is_log($userid, $log_data, $log_mode, $log_status);
   
   if ($result) {
       echo "บันทึกกิจกรรมการอัปเดตข้อมูลสำเร็จ";
   } else {
       echo "เกิดข้อผิดพลาดในการบันทึกกิจกรรม";
   }

   ผลลัพธ์: บันทึกการกระทำของผู้ใช้ที่ทำการอัปเดตข้อมูลในฐานข้อมูล

ผลลัพธ์ที่ได้:

• หากการบันทึกสำเร็จ จะคืนค่า true

• หากการบันทึกไม่สำเร็จ จะคืนค่า false

หมายเหตุ: ฟังก์ชันนี้จะเก็บข้อมูล IP (REMOTE_ADDR) และ User Agent (HTTP_USER_AGENT) จากเซิร์ฟเวอร์ เพื่อติดตามกิจกรรมและสถานะการทำงานของผู้ใช้